บอกไปว่าฉันชอบ “ เขา ” Osmenã Peak
บอกไปว่าฉันชอบ “
เขา ”
ใครว่าที่เซบูมีแต่ทะเลเท่านั้นที่สวยงาม
ไม่จริงเลยค่ะ นอกจากทะเลสวย น้ำใส หาดทรายขาวแล้ว เซบูยังมีภูเขาสูงที่รอให้เราไปพิชิตยอดเขาอยู่ด้วยค่ะ
แอดอีกเป็นหนึ่งคนค่ะ ที่ชอบเที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติ วันนี้เป็นวันหยุดยาวทั้งที แอดเลยได้มีโอกาสพาร่างกายไปชาร์จพลัง
สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดที่
เป็นจุดที่สูงที่สุดในเกาะ
Cebu
ซึ่ง อยู่ห่างจากระดับน้ำทะเล 1,013 เมตร
ด้วยวิวของแปลงผักกาดบนเนินเขาสูง
บวกกับวิวทิวทัศน์อันน่าทึ่งของเทือกเขาสลับซับซ้อน และหน้าผาหินปูนที่ขรุขระพร้อมทิวทัศน์ของทะเลจากมุมสูง
เกิดเป็นจุดชมวิวที่สวยงามน่าชมอีกแห่งหนึ่งของเซบูค่ะ
ครั้งนี้แอดได้ไปกลางเต็นท์ค้างคืนบนยอดเขามาค่ะ
เพื่อหวังที่จะชมความสวยงามของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวที่สวยงาม แต่ผิดคาดคืนที่ไปนั้นค่อนข้างครึ้ม
และมีเมฆซะเหลือเกินทำให้จากทะเลดาวนั้น แอดก้ได้ชมทะเลหมอกแทนค่ะ แต่ก็สวยงามไม่แพ้กันนะคะ ผิดคาดแต่ก็ไม่ผิดหวังค่ะ
ทริปนี้เป็นทริปสำหรับขาลุย
ขาเลอะนิดหนึ่งค่ะ เพราะต้องเดินเท้า ย่ำโคลน
และต้องเป็นคนที่กินง่าย นอนง่าย ขับถ่ายง่ายด้วย
แอดเริ่มเดินทางจากตัวเมืองเซบูโดยรถบัสมุ่งไปทางใต้ของเซบู ใช้เวลาประมาณ 3
ชม.ค่ะ ค่าโดยสารอยู่ที่ 100เปโซ ไปลงที่ ตลาดผัก Mantalongon
เมื่อถึงแล้วก็ทำการจับจ่ายซื้อของ เตรียมเสบียงสำหรับคืนนี้กันค่ะ
หรืออีกวิธีหนึ่งคือการนั่งมอเตอร์ไซต์จากตลาดไปยังตีนเขาหรือจุดลงทะเบียนนั้นเองค่ะ
และใช้เวลาเดินต่อไปยังยอดเขาประมาน 15-20
นาที ค่าเช่ารถก็ประมาณคนละ 200 เปโซค่ะ
มอเตอร์ไซต์ที่ก็จะ Advance หน่อยค่ะซ้อนกันแต่ละครั้ง ก็ 5-6 คนกันเลยทีเดียว
อย่างที่บอกว่าไปค่ะว่าทริปนี้ขาลุย
แอดจึงเลือกที่จะเดินลัดเลาะไปตมทางเพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติไปค่ะ โดยได้พี่ชาวบ้านท้องถิ่นไปไกด์นำทางไปค่ะ
เมื่อไปถึงไปผิดหลังเลยค่ะ
วิวยอดเขาสวยมาก
หลังจากมาถึงก็พักเหนื่อยสักครู่
แล้วก็เริ่มถ่ายรูปความสวยงามบนยอดกันค่ะ จากนั้นก็ได้เวลากลางเต็นท์ค่ะ เนื่องจากที่นี่ไม่อนุญาตให้ก่อไฟ
พวกเราจึงต้องกลางเต็นท์และรับประทานอาหารเย็นให้เสร็จก่อนที่ฟ้าจะมืดกันค่ะ
หลังจากนั้นก็กิจกรรมของคืนนี้ก็เสร็จสิ้นค่ะ หลังจากพระอาทิตย์ตกดินก็มีเพียงความมืด
แสงจากหิ่งห้อย และบทสนทนาของพวกเรา ท่ามกลางความหนาวแลพหมอกที่เริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆค่ะ
ยิ่งดึกก็ยิ่งมีผู้คนเริ่มทยอยคนมากลางเต็นท์เพื่อที่จะชมหมู่ดาวและวิวของพระอาทิตย์ขึ้นในวันรุ่งขึ้นค่ะ
นี่เป็นจุดถ่ายรูปที่เป็นที่นิยมทีสุดค่ะ ใครมาถึงที่นี่จำเป็นต้องถ่ายฉากนี้ทุกคน เราก็ต้องเอากับเขาหน่อยค่ะ ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว
นี่เป็นจุดถ่ายรูปที่เป็นที่นิยมทีสุดค่ะ ใครมาถึงที่นี่จำเป็นต้องถ่ายฉากนี้ทุกคน เราก็ต้องเอากับเขาหน่อยค่ะ ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว
น้องหมาก็ขอโพสท่ากับเขาด้วย
ชาวบ้านเขาเรียกที่นี่ว่า Little Baguio เนื่องจากอากาศที่หนาวมากจึงทำให้แอดหลับไม่ค่อยจะสบายสักเท่าไรแต่ก็เป็นข้อดีที่ทำให้แอดได้ตื่นขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ทันเวลาค่ะ
นี่ก็เป็นอาหารเช้าของวันนี้ค่ะ น้ำร้อนกระติกนี้ต้องจองคิวล่วงน้าด้วยนะคะ จากร้านค้าเล็กที่เดินผ่านมาเมื่อวาน ตื่นเช้ามาก็มีเด็กน้อยหิ้วกระติกน้ำร้อนพร้อมกาแฟมาเสริฟถึงเต็นท์เลยค่ะ
สภากาแฟยามเช้าค่ะ
เทวดาตัวน้อยของทริปนี้ค่ะ ต้องขอบคุณน้องชายคนนี้ค่ะ ที่คอยส่งกาแฟ ช่วยกางเต็นท์และนำทางเรามายังจุดหมาย
หลังจากที่แอดได้ชมวิวของเพราะอาทิตย์ขึ้นและก็รับประทานอาการเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็ได้เวลาเดินทางกลับค่ะ
โดยเดินกลับมาทางเดิมจากเมื่อวานแต่แอดเลือกที่จะนั่งรถมอเตอร์ไซต์กลับ
เพื่อไปยังบ่อน้ำธรรมชาติละแวกใกล้เคียงเพื่ออาบน้ำให้สดชื่นก็ที่จะนั่งรถบัสกลับเข้าตัวเมืองเซบูค่ะ
ใครที่มาท่องเที่ยวเซบู
นอกจากไปเที่ยวทะเล ว่ายน้ำกับเจ้าปลาฉลามแล้ว
ก็เปลี่ยนมาลองมาสัมผัสบรรยากาศดี ๆ และไอหมอกบนยอดเขากันดูนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น