เที่ยวจุดชมวิว 3 ที่ในเมืองซีบู ที่เขาว่าต้องมา แค่ครึ่งวันก็เที่ยวได้!!
ซีบู ไม่ได้มีแค่ฉลามวาฬให้ดู หรือแค่ปลาดาวให้ชม!!
สัปดาห์นี้เลยจะพาไปเพื่อนๆไปเที่ยวชมเมืองและจุดlandmark อีกหลายๆจุดที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและไม่พลาดที่จะไปเยือนกัน
สัปดาห์นี้เลยจะพาไปเพื่อนๆไปเที่ยวชมเมืองและจุดlandmark อีกหลายๆจุดที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและไม่พลาดที่จะไปเยือนกัน
เนื่องจากเป็นสัปดาห์จบการศึกษาของนักศึกษาไทยถึง2 คน และมีเวลาจำกัด เราเลยหาที่เที่ยวแบบเที่ยง-เย็นกลับ
ผลสรุปเลยมาตกที่ Sirao Flower Gardren รวมไปถึง Temple Of Reah และมาจบที่ Top Of Cebu เพราะทุกที่อยู่ในเส้นทางเดียวกัน เหมาะกับการแวะชมโดยไม่ต้องใช้เวลามาก
ผลสรุปเลยมาตกที่ Sirao Flower Gardren รวมไปถึง Temple Of Reah และมาจบที่ Top Of Cebu เพราะทุกที่อยู่ในเส้นทางเดียวกัน เหมาะกับการแวะชมโดยไม่ต้องใช้เวลามาก
เมื่อตกลงกันได้เสร็จสรรพ ก็ถึงเวลาเดินทาง แต่เมื่อมาถึงโรงเรียนซึ่งเป็นจุดนัดพบของเรา ตอนแรกตกลงกันว่าจะไปแค่ 3 คน แต่กลับได้สมาชิกเพิ่มอีก 2 คน เป็นเพื่อน Students staff ชาวมองโกเลีย และญี่ปุ่น รวมเป็น 5 คน😁
เลยเหมาแท็กซี่กันไปขอบอกก่อนว่าไม่ควรเกิน2,000
เปโซ(ประมาณ1,200 ฿) รวมไป-กลับ
เลยเหมาแท็กซี่กันไปขอบอกก่อนว่าไม่ควรเกิน2,000
เปโซ(ประมาณ1,200 ฿) รวมไป-กลับ
ขอเล่าก่อนว่าแท็กซี่เรียกเรา 3,000 เปโซ แต่เพื่อนชาวมองโกเลียเถียงคอเป็นเอ็น ว่าเคยไป 3 ที่ แค่ 2,000 เปโซ แท็กซี่เลยยอม
แต่!!ทางขึ้นเป็นเขาโค้งเยอะพอๆกับทางไป ปาย จ.แม่ฮ่องสอน อยู่ๆนางก็ปิดแอร์ซะงั้น บอก“รถแรงไม่พอรถคันอื่นๆก็ปิดแอร์วิ่ง” ทุกคนในรถมองหน้ากันทันทีและต้องยอมไปแบบร้อนๆ
แต่!!ทางขึ้นเป็นเขาโค้งเยอะพอๆกับทางไป ปาย จ.แม่ฮ่องสอน อยู่ๆนางก็ปิดแอร์ซะงั้น บอก“รถแรงไม่พอรถคันอื่นๆก็ปิดแอร์วิ่ง” ทุกคนในรถมองหน้ากันทันทีและต้องยอมไปแบบร้อนๆ
จุดแรกที่ไปคือ Sirao Flower Gardren เสียค่าเข้าคนละ 100 เปโซ(ประมาณ60฿) ถือเป็นจุดยอดนิยม เขาว่ากันว่าเป็น Mini
Amsterdam ที่ควรมา
เข้ามาข้างในจะมีทุ่งดอกไม้รอเราอยู่สวยงามพอควรกับการถ่ายรูป มีจุดให้ถ่ายรูปหลายจุด ผสมกับวิวภูเขาเป็นฉากหลัง แต่จุดที่คนต่อแถวถ่ายรูปเยอะที่สุด คือการขึ้นไปถ่ายรูปบนมือสีทองแบบพวกเรา โดยต้องใช้เวลาต่อคิวนานมากก กว่าจะได้ภาพสวยๆงามๆ แบบนี้ แถมยังต้องรีบถ่ายเพราะคนรอต่อแถวยาวววมากๆเช่นกัน
Amsterdam ที่ควรมา
เข้ามาข้างในจะมีทุ่งดอกไม้รอเราอยู่สวยงามพอควรกับการถ่ายรูป มีจุดให้ถ่ายรูปหลายจุด ผสมกับวิวภูเขาเป็นฉากหลัง แต่จุดที่คนต่อแถวถ่ายรูปเยอะที่สุด คือการขึ้นไปถ่ายรูปบนมือสีทองแบบพวกเรา โดยต้องใช้เวลาต่อคิวนานมากก กว่าจะได้ภาพสวยๆงามๆ แบบนี้ แถมยังต้องรีบถ่ายเพราะคนรอต่อแถวยาวววมากๆเช่นกัน
หลังอิ่มหนำสำราญกับการถ่ายภาพที่ Sirao Flower Garden กันแล้วเราก็หิวขึ้นมาทันที เลยขอกินข้าวโพดปิ้งและกล้วยปิ้งด้านหน้าสักหน่อยเพราะอยากรู้จะต่างจากไทยไหมและก็แน่นอนว่าไม่ต่าง 5555
ข้าวโพดอร่อยมาก ฟักละ 30 เปโซ(18฿) และกล้วยปิ้ง 2 ลูก 25 เปโซ(15฿) แต่กล้วยที่นี่ใหญ่จริงๆแถมยังรสเปรี้ยวนิดๆ แต่รวมๆแล้วก็อร่อยดี
ข้าวโพดอร่อยมาก ฟักละ 30 เปโซ(18฿) และกล้วยปิ้ง 2 ลูก 25 เปโซ(15฿) แต่กล้วยที่นี่ใหญ่จริงๆแถมยังรสเปรี้ยวนิดๆ แต่รวมๆแล้วก็อร่อยดี
ใช้เวลาที่นี่กันมากพอแล้ว เราเลยไปต่อที่ Top Of Cebe ค่าเข้าคนละ 100 เปโซเช่นเดิม(60฿) เข้าไปด้านในจะเป็นลานกว้างๆตอนแรก
คิดว่าไม่มีอะไร แต่พอเดินไปใกล้ๆ
โอ้โห้!! สวยมาก!! เห็นวิวเมืองซีบูทุกซอกทุกมุมตัดกับวิวทะเลและท้องฟ้าสีครามเหมาะกับการชาร์จแบตเติมพลังชีวิตมากๆ เราเลยถ่ายรูปกันหลายภาพกระโดดโลดเต้นกันอยู่บนนั้นและไม่พลาดจะตีระฆังก่อนกลับทั้งที่ไม่รู้ความหมาย5555
คิดว่าไม่มีอะไร แต่พอเดินไปใกล้ๆ
โอ้โห้!! สวยมาก!! เห็นวิวเมืองซีบูทุกซอกทุกมุมตัดกับวิวทะเลและท้องฟ้าสีครามเหมาะกับการชาร์จแบตเติมพลังชีวิตมากๆ เราเลยถ่ายรูปกันหลายภาพกระโดดโลดเต้นกันอยู่บนนั้นและไม่พลาดจะตีระฆังก่อนกลับทั้งที่ไม่รู้ความหมาย5555
และแล้วก็มาถึงจุดสุดท้ายของพวกเราคือที่Temple Of Leah เสียค่าเข้าคนละ100 เปโซ(60฿) เช่นเดิมขึ้นไปจะพบกับสถาปัตยกรรมโรมันให้ได้ว้าว โดยมีลานกว้างๆให้ถ่ายรูปและมีจุดชมวิวคล้ายๆกับTop Of Cebu ให้ชมเพียงแค่คนละมุมเท่านั้น เราเลยขอcreate ภาพถ่ายสไตล์เราไว้เป็นที่ระลึก
ใช้เวลากันพอสมควรเราต้องนรีบลงไปข้างล่างแล้วเพราะวันที่เราไปเที่ยว2 นักศึกษาไทยจะต้องเดินทางกลับไทยพอดี เดี๋ยวตกเครื่อง555
ส่วนใครจะตามรอยเที่ยวแบบเราก็ไม่ว่ากันนะคะไว้เจอกันใหม่ในคราวหน้าเพราะยังมีเรื่องเล่าจากซีบูจะมาเล่าอีกเพียบค่ะช่วยติดตามด้วยนะคะ👋
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น