ต้นกำเนิด Potato Corner
ในช่วงเดือนที่ผ่านมาตาม
ig story แอดเห็นเพื่อนๆลงรูปPotato Corner กันใหญ่
เห็นว่าขายดีถึงขั้นต่อคิวกันเลยทีเดียว ถึงจะอยู่เซบูแต่ความเป็นไปในไทยก็ยังติดตามตลอด
ไม่รู้เพราะกระแส #พีชแพท หรือเพราะ โปร 1แถม1ใดๆก็ตาม
แต่รู้หรือไม่ Potato
Corner นั้นต้นกำเนิดมาจากประเทศฟิลิปปินส์นี่เอง ถึงว่าเวลาแอดไปเดินตามห้างในเซบูมีทุกห้างนะจ๊ะ
ว่าแล้วก็ลองไปดูประวัติ Potato
corner กันซักหน่อย
“ถ้าประตูหนึ่งปิด เราไปเปิดอีกประตูก็ได้”
นี่คือประโยคที่แสดงถึงทัศนคติของผู้ก่อตั้ง Potato Corner ร้านเฟรนช์ฟรายส์ชื่อดัง
นี่คือประโยคที่แสดงถึงทัศนคติของผู้ก่อตั้ง Potato Corner ร้านเฟรนช์ฟรายส์ชื่อดัง
Potato Corner เปิดตัวที่ SM Megamall ช่วงตุลาคม 1992 ที่ฟิลิปปินส์ โดย Joe
Magsaysay ผู้เป็น CEO ของ Potato
Corner และกลุ่มเพื่อนของเขา
ชีวิตในวัยเด็กของ Joe Magsaysay เริ่มต้นด้วยความยากลำบาก
เขาสูญเสียพ่อผู้เป็นเสาหลักของครอบครัวตั้งแต่เด็ก ทำให้ต้องหางานทำเพื่อหาเงินขณะที่เรียนไปด้วย
ทุกวันหลังเรียนเสร็จ เขาต้องไปทำงานนอกเวลา ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ตั้งแต่ 1 ทุ่มจนร้านปิด ทำตั้งแต่เช็ดโต๊ะ ทำความสะอาดร้าน
ไปจนถึงทำหน้าที่เป็นแคชเชียร์
ด้วยความขยันขันแข็งของเขา ทำให้หัวหน้าเสนองานประจำให้แก่ Joe
Magsaysay
โชคดีของเรื่องนี้ก็คือ เขาจะมีเงินมากขึ้นเมื่อได้งานประจำ
แต่โชคร้ายก็คือถ้าทำงานประจำเขาต้องออกจากโรงเรียน
เขาตัดสินใจอยู่นาน เพราะการเรียนก็สำคัญ
แต่การหาเงินเพื่อมาช่วยครอบครัวก็สำคัญไม่แพ้กัน แต่สุดท้ายทางเดินที่เขาเลือกคือ
การออกมาทำงานประจำ
ระหว่างที่ทำงานประจำ เพื่อนของ Joe Magsaysay ได้มาชวนเขาไปร่วมหุ้น
เพื่อร่วมกันทำธุรกิจเฟรนช์ฟรายส์ในชื่อ Potato Corner เนื่องจากเพื่อนของเขามองว่า
การที่ตัวเขามีประสบการณ์ในการทำร้านอาหาร น่าจะช่วยให้ธุรกิจนี้ไปได้ดี
ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจมาร่วมหุ้นกับเพื่อนทำธุรกิจเล็กๆ นี้ โดยที่เขายังทำงานประจำอยู่ด้วย
แม้จะใช้เงินลงทุนเริ่มต้นในธุรกิจนี้ 255,000
บาท แต่พวกเขาก็ไม่มีเงินในตอนนั้นมากนัก
ทำให้ต้องใช้โรงรถที่บ้านของ Joe Magsaysay ในการเริ่มทำธุรกิจ
เงินลงทุนในส่วนของ Joe Magsaysay จำนวน
64,000 บาท สำหรับตัวเขานั้นก็ไม่มี จนต้องไปขอยืมเพื่อน
ในตอนนั้นหัวหน้าร้านอาหารที่ Joe Magsaysay ทำงานประจำด้วย
ได้เรียกเขามาคุยและถามว่า เขาทำงานอื่นควบคู่ไปด้วยหรือไม่
เขาตอบว่าใช่ “ผมทำธุรกิจเล็กๆ
ควบคู่กับงานประจำไปด้วย”
หัวหน้าย้อนกลับมาถามเขาต่อว่า
“คุณจะทำงานที่ร้านอาหารเราต่อ หรือจะไปทำธุรกิจเล็กๆ ที่คุณกำลังทำอยู่”
“คุณจะทำงานที่ร้านอาหารเราต่อ หรือจะไปทำธุรกิจเล็กๆ ที่คุณกำลังทำอยู่”
เขาตัดสินใจอยู่นานเพราะงานประจำที่เขาทำเป็นงานที่มั่นคง มีรายได้ต่อเนื่อง
ขณะที่ธุรกิจของ Potato Corner ยังเล็ก
และรายได้ยังน้อยเมื่อเทียบกับงานประจำที่ทำอยู่
การตัดสินใจครั้งสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้ง
เหมือนตอนที่เขาต้องเลือกระหว่างจะเรียนต่อหรือทำงาน สุดท้ายเมื่อต้องเลือก
เขาตัดสินใจเลือกที่จะมาทุ่มเทให้กับ Potato Corner กับเพื่อนๆ
Potato Corner เริ่มเปิดสาขาแรกอย่างเป็นทางการในปี 1992
ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี
แต่เนื่องจากการขยายสาขาต้องใช้เงินทุนเยอะ Joe Magsaysay จึงขยายสาขาด้วยการขายแฟรนไชส์
จนทำให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
จุดเปลี่ยนของธุรกิจเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2006
เมื่อมีนักเรียนชาวอินโดนีเซียมาเรียนที่ฟิลิปปินส์แล้วอยากให้ Potato
Corner ไปเปิดสาขาที่อินโดนีเซีย จึงติดต่อมาหา Joe
Magsaysay
ทำให้เขาตัดสินใจเปิดสาขาที่อินโดนีเซียหลังจากศึกษาตลาดมาเรียบร้อย
ซึ่งเป็นสาขาแรกของ Potato Corner ในต่างประเทศ
ในปี 2018 Potato Corner ได้กระจายสาขาเข้าไปใน 11 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ปานามา ออสเตรเลีย
ไทย ฮ่องกง กัมพูชา สิงคโปร์ เวียดนาม และคูเวต
ปัจจุบัน จำนวนสาขาของ Potato Corner มีอยู่กว่า
1,500 ร้านทั่วโลก โดยสัดส่วนระหว่างร้านของบริษัทอยู่ที่ 25%
และ
ร้านแฟรนไชส์อยู่ที่ 75%
ใครจะไปคิดว่าเฟรนช์ฟรายส์ปรุงรสถ้วยเล็กๆ
จะมีรายได้หลักร้อยล้านบาท และดูแล้วธุรกิจนี้กำลังเติบโตไปได้ดี
Cr : https://www.longtunman.com/18012 และรูปภาพจาก : https://www.facebook.com/PotatoCorner/
โดยร้านPotato Corner ที่เซบูมีหลายรูปแบบตั้งแต่บูทเล็กๆ ไปจนถึงShopใหญ่ๆ มีที่ให้นั่งกันเลยทีเดียว
Ayala Center Cebu |
SM Seaside City Cebu |
เมนูก็จะประมาณนี้ |
หลังจากได้อ่านประวัติของJoe Magsaysayแล้ว บ่อยครั้งที่เราต้องตัดสินใจเลือกในสิ่งที่เรายังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
แต่ถ้าเราแน่วแน่ในสิ่งที่เราเลือกแล้วก็ต้องตั้งใจไปให้สุด และอย่างหลายๆคนที่กำลังตั้งใจฝึกภาษาอังกฤษกันอยู่นั้น
เราก็ต้องมีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่าเราจะพัฒนาไปได้ไกลกว่าเดิม เหมือนอย่าง
Potato Corner นั้นมีมา 27ปีแล้ว ถ้าเค้าไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น ก็คงไม่สำเร็จเหมือนในตอนนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น